STelligence คว้ารางวัล AI Innovation Partner of the Year 2024 จาก Microsoft Thailand
ความสำเร็จครั้งสำคัญ สะท้อนความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยี AI ขั้นสูงยกระดับธุรกิจไทย
ก้าวแห่งความสำเร็จของ STelligence เมื่อได้รับรางวัล Business Transformation Awards สาขา AI Innovation จากงาน Microsoft Thailand Partner of The Year Awards 2024 ที่จัดขึ้นเมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา รางวัลนี้เป็นการยืนยันถึงศักยภาพและความเชี่ยวชาญของ STelligence ในการสร้างสรรค์โซลูชัน AI ที่โดดเด่นและได้รับการยอมรับในระดับสากล
ความสำเร็จครั้งนี้เกิดจากการพัฒนาโซลูชัน AI ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยใช้เทคโนโลยี Speech-to-Text, GPT-4 และ Advanced Prompt Engineering ซึ่งได้รับการกล่าวถึงโดย Microsoft ว่าเป็น “ผู้นำในโครงการ AI นี้เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ทั้งกับลูกค้าและทีมงาน”
โครงการ Microsoft Thailand Partner of The Year Awards 2024 สนับสนุนวิสัยทัศน์ “AI for All Thais” ของไมโครซอฟท์ ที่ประกาศโดย คุณธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา คุณธนวัฒน์ได้กล่าวถึง STelligence ว่าเป็น AI Tech Startup ที่พัฒนาแพลตฟอร์ม Enterprise Risk Management (ERM) ซึ่งนำเอา AI มาช่วยในการจัดเตรียมรายงานความเสี่ยง (Risk Report) ประเมินความเสี่ยง (Risk Assessment) รวมไปถึงการวิเคราะห์ (Analytics) และจัดทำรายงานความเสี่ยงให้กับบอร์ดบริหารและหน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ นับเป็นการนำเอา AI เข้ามาสนับสนุนงานบริหารความเสี่ยง และส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กรอย่างเป็นรูปธรรมและมีนัยสำคัญ
ดร.สันติสุข ลิ้มปีติเจริญโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ก่อตั้ง บริษัท STelligence กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลนี้ ขอขอบคุณทาง Microsoft ที่ยอมรับในผลงานของเรา เรามุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างศักยภาพของคนไทย เศรษฐกิจไทย และภาครัฐ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลเชิงบวกต่อประเทศ พร้อมผลักดันให้ GDP ของไทยเติบโต เราเชื่อมั่นว่าประเทศไทยมีผู้เชี่ยวชาญ และบริษัทที่แข็งแกร่งระดับโลก ในหลายสาขา โจทย์สำคัญคือจะทำอย่างไรให้คนรุ่นใหม่ที่ยังไม่เชี่ยวชาญ รวมถึงบริษัทขนาดกลางและย่อม สามารถนำ AI มาใช้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและเติบโตได้ เราเชื่อว่าหลายองค์กรในไทยต้องการนำ AI มาใช้ แต่กระบวนการอาจซับซ้อนและต้องใช้เวลานานเกินไป ดังนั้น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ “พร้อมใช้” ให้ลูกค้าของเรา จะช่วยลดเวลาสู่ตลาด (Time to value) และมั่นใจได้ว่าโซลูชันที่พัฒนาขึ้นมานั้น สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดในประเทศไทยได้อย่างแท้จริง”
คุณสรุจ ทิพเสนา CTO และ กรรมการบริหาร บริษัท STelligence กล่าวว่า “ก้าวต่อไป เรามุ่งมั่นที่จะเน้นการประยุกต์ใช้ AI เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรไทยมากขึ้น เช่น AI สำหรับกฎหมายไทย เพื่อช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลและปฏิบัติตามกฎหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือการนำ AI มาช่วยเรื่อง Knowledge Management โดยเฉพาะการแชร์ความรู้ข้ามสาขา (Cross-domain Knowledge Sharing) ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันและมอบการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับองค์กรไทยได้อย่างเป็นรูปธรรม”
รางวัลนี้นับว่าเป็นบันไดก้าวสำคัญของการบรรลุเป้าหมายที่ STelligence ต้องการผลักดันให้คนไทยใช้ AI เพื่อยกระดับการขับเคลื่อนองค์กรธุรกิจให้แข็งแกร่งและเติบโตอย่างยั่งยืน